เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

สัตว์นรกหนีมาเกิด [2]


สังคมไทยยังไม่หายช็อกกับเหตุการณ์  “ลูกชายคนโตรับแล้ว! ก่อเหตุฆ่า พ่อ-แม่-น้องชายเผยสาเหตุแค้นถูกแม่ดุด่า”  ก็เกิดเหตุการณ์สัตว์นรกหนีมาเกิดอีกครั้งหนึ่ง

อ่านข่าวเต็มๆ จากข่าว “รวบทีมสังหารโหดฆ่ายกครัว!” กันเลย

รวบมือฆ่ายกครัว! ลูกชายคนเล็กสารภาพจ้างมือปืนพร้อมสัญญาถ้าได้มรดกจะตกรางวัลเป็นเงินสดและรถยนต์

ด้านน้าไม่ปักใจเชื่อว่าหลานเป็นคนทำ ระบุหลานไม่ใช่คนเกเร มีพื้นฐานจิตใจดี เบื้องต้น จนท.นำผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรี

วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลจับกุมนายฉลาด เที่ยงธรรม หรือ ป๊อด อายุ 53 ปี และนายสุระพงษ์ ชูพงษ์ หรือ จ่าแอ๊ด อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หรือ ธนัฐพงษ์ หอมชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เสียชีวิต พร้อมด้วย พ.อ.วิชัย หอมชง และนางวนิดา หอมชง รวม 3 ศพ ภายในบ้านพักย่านถนนกาญจนาภิเษก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายกิตตินันท์ หอมชง หรือ เต้ย บุตรชายคนเล็กของผู้ตาย สารภาพว่า โกรธแค้นที่ถูกพ่อว่ากล่าวเรื่องพฤติกรรมการเรียน ความประพฤติที่ไม่ยอมเรียนหนังสือและไม่หางานทำ

ซึ่งพ่อมักจะเอาตนไปเปรียบเทียบกับ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ พี่ชายเสมอ จึงทำให้เกิดความน้อยใจประกอบกับตนเองได้ไปอาศัยอยู่กับเพื่อน ในจรัญสนิทวงศ์ นานถึง 2 ปี และไม่ได้รับการช่วยเหลือทางการเงินจากครอบครัว

จึงคิดวางแผนร่วมกับนายศักรินทร์ หรือ กอล์ฟ (อ้วน) นายฉลาด เที่ยงธรรม หรือ ป๊อด นายสุระพงษ์ ชูพันธ์ หรือ จ่าแอ๊ด และนายสิริชัย เพิ่มพูลศักดิ์ หรือ ป้อม อายุ 39 ปี ที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเป็นคนยิงครอบครัวตนเอง

และตนได้สัญญาว่า หากได้รับมรดกทั้งหมดแล้ว จะนำเงินมาจ่ายค่าจ้างเป็นเงินสดและรถยนต์ ซึ่งในวันเกิดเหตุนายป๊อดพร้อมพวก ได้บุกเข้าไปในบ้านใช้ปืนขนาด 9 มม.ยิงทั้ง 3 คนเสียชีวิตขณะที่นอนหลับภายในบ้านก่อนจะหลบหนีไป แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุด
      
เบื้องต้นแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ส่วนนายกิตตินันท์ ถูกตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมด้วย คือ กระทำผิดฐานฆ่าบุพการี

ด้านนายฉลาด เที่ยงธรรม หรือ ป๊อด สารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากนายเต้ย และนายกอล์ฟ ทำหน้าที่ขับรถให้กับมือปืนคือ นายสิริชัย และนายสุระพงษ์

โดยได้เช่ารถแท็กซี่และออกเดินทางจากย่านห้วยขวางตอนเวลา 22.00 น.ไปถึงบริเวณคอสะพานห่างจากบ้านที่ก่อเหตุประมาณ 30 เมตร ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.

จากนั้น นายสิริชัย และนายสุระพงษ์ ได้เข้าไปในบ้าน ก่อเหตุประมาณ 10 นาที ก่อนเดินกลับมาที่รถ ทั้งนี้ ยังอ้างว่าไม่ทราบว่าเป็นพ่อลูกกัน เพราะก่อนหน้านี้นายกิตตินันท์เคยบอกว่าพ่อถูกโกงที่ดิน เลยมาขอความช่วยเหลือ

ขณะที่ นายสุระพงษ์ ชูพงษ์ หรือ จ่าแอ๊ด สารภาพว่าตนและนายป้อมได้รับการว่าจ้างจากนายกิตตินันท์ และนายศักรินทร์ ซึ่งเมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้เดินเข้าไปในบ้าน

โดยใช้กุญแจบ้านสำรองที่รับจากนายศักรินทร์เปิดเข้าไปภายในบ้าน ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ อ้างว่า นายสิริชัย เป็นคนยิง ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ที่นั่งดูฟุตบอล และนางวนิดา คนละ 1 นัด

จากนั้นขึ้นไปชั้นสองของบ้านยิง พ.อ.วิชัย จำนวน 2 นัด และกลับลงมายิง ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ซ้ำอีกครั้ง ก่อนหลบหนีออกมาจากบ้าน

นอกจากนี้ นายสุรพงษ์ ให้การว่า วานนี้ (5 เม.ย.) นายป้อม ได้โอนเงินให้ตนจำนวน 10,000 บาท ตนจึงเดินทางกลับสุพรรณบุรีเพื่อนำเงินไปให้ลูก แต่ถูกจับกุมเสียก่อน

ด้าน นายเด่นชัย บุญกระพือ น้าชายของนายกิตตินันท์ หอมชง หรือ เต้ย เปิดเผยว่า ตามปกติหลานชายไม่ใช่คนเกเร เป็นคนมีพื้นฐานจิตใจดี เพียงแต่เอาแต่ใจบ้าง และโดยปกติมักจะออกไปอยู่กับเพื่อน

รวมถึงญาติพี่น้องทราบว่าหลานชายเป็นคนที่รักพ่อมาก จึงยังไม่ปักใจเชื่อว่าหลานเป็นผู้ร่วมมือจ้างวานฆ่าคนในครอบครัว ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการขัดแย้งเรื่องมรดกหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง เนื่องจากมีการแบ่งมรดกกันภายในครอบครัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนสาเหตุความขัดแย้งอื่นๆ ไม่น่าจะมี ทั้งนี้ ตนยังติดใจที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่นำตัวหลานชายมาร่วมแถลงข่าวหรือชี้แจงต่อสื่อมวลชน ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงพยานบอกเล่า เป็นการซัดทอดของผู้ต้องหา ยังไม่สามารถจับคนยิงได้

ส่วนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุก็ยังหาไม่พบ ทั้งนี้ หากหลานชายรับสารภาพว่าก่อเหตุจริงตนก็พร้อมยอมรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีการนำตัวนายกิตตินันท์ และศักรินทร์ มาที่ บช.น.ด้วย แต่ไม่ได้นำตัวออกมาร่วมแถลงข่าว และภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นได้มีการควบคุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญาธนบุรีทันที

ขณะที่มีรายงานเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาว่าพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียดในที่เกิดเหตุ

คดีนี้ ผมคิดว่า ลูกชายคนเล็กมีส่วนตั้งแต่อ่านข่าวครั้งแรกแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าฟันธง แต่เหตุการณ์แบบนี้คือ คนร้ายเข้าไปฆ่าคนในครอบครัวง่ายๆ  ไม่งัดเข้าไป ไม่บุกเข้าไป  ตำรวจก็อ่านออกแล้วว่า ต้องมีคนภายในให้ความร่วมมือ

กรณีนี้ ถ้าคนยิงบุกเข้าไป  ก็กลัวว่า จะโดนสวนจากตำรวจผู้ตาย  จึงวางแผนให้สะดวกมากขึ้น ก็เป็นการวางแผนของพวกสัตว์นรก  ตำรวจจึงสามารถทำคดีได้ง่ายขึ้น

ประการสำคัญก็คือ ตำรวจเป็นผู้ตายด้วย  ตำรวจก็ต้องออกแรงสุดฤทธิ์

เรามาวิเคราะห์เจาะลึกกันว่า “ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ ถึงได้เกิดขึ้ซ้ำซากในประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาพุทธถึงร้อยละ 95” กัน

มีบทความของผู้จัดการออนไลน์ วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ทำนองนี้ไว้ คือ บทความ “ฆาตกรเลือดเย็น” หยุดโทษเด็ก ให้โทษผู้ใหญ่!?!

บทความดังกล่าวชี้ให้เห็นความบกพร่องของระบบการเลี้ยงดู ซึ่งผมไม่ค่อยเห็นด้วย  คือ พ่อแม่ผู้ปกครองนั้น บกพร่องจริงในกรณีที่ไม่สอนลูกให้รู้จัก “บุญกรรม

ความจังไรนั้น เป็นของลูกที่ฆ่า พ่อ แม่ พี่ แท้ๆ  พวกนี้เป็นสัตว์นรกมาเกิดจริง แล้วก็จะต้องลงไปอีก อย่างยาวนาน

ผมกับพวกเป็นพวก “จิ๋กโก๋” หรือ “นักเลงอันธพาล” มาก่อน  ลุยไปมาแล้วร้อยเอ็ด 7 ย่านน้ำ ไม่เคยกลัวใคร 

ถ้าตอนไหน “รมณ์” ไม่ค่อยดี หรืออารมณ์บ่จอย  แค่มีคนมองหน้าเฉยๆ ก็เคยโดนตบคว่ำมาแล้ว  แต่เราไม่กล้าสู้พ่อแม่เลย  พ่อแม่จะตี เราก็หนีอย่างเดียว

ผมเองตอนเป็นเด็ก ถูกแม่เอามีดฟันหัว เลือดสาด ผมก็ไม่เคยโกรธแม่ของผมเลย

เล่าให้ฟังก็ได้

ตอนนั้น บ้านผมซ่อมหลังคา  พ่อเป็นช่างเอง  พ่อผมเป็นช่างไม้โดยอาชีพอยู่แล้ว  พอดีตะปูมันหมด แม่ก็ให้ผมไปซื้อ

ตอนนั้น อายุประมาณ 7-8 ขวบ  ผมเดินมา แล้วเห็นเพื่อนมันเล่นกันอยู่ เล่นอะไรจำไม่ได้แล้ว ผมก็มัวยืนดูพวกมันเล่นจนเพลิน  ก็ยังเป็นเด็กอยู่

แม่ผม เห็นว่า ทำไมผมหายหัวไปนานจัง  จึงเดินมาตาม ถือมีดมาด้วย คงเป็นมีดทำครัว 

พอมาถึงผม ด้วยความที่แกโมโห จึงเอามีดเคาะหัว  สงสัยแม่คงลืมว่ามันเป็นมีด  มันก็เป็นแผลเลือดสาด

ตอนนี้ คนตกใจเป็นแม่ผมเอง  ผมเป็นเด็กใจถึงมาตั้งแต่เด็ก ไม่ร้องไห้อะไร  แม่ต้องเป็นคนรักษา

ผมก็ไม่เคยโกรธแม่ซักที  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร

อีกอย่างหนึ่ง ตรงหัวนี้ เส้นประสาทมันน้อยหรือไงก็ไม่รู้ ไม่ค่อยเจ็บ  คนที่สักหัวก็ไม่ค่อยเจ็บ  แต่สักที่มือจะเจ็บมาก

กรณีที่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น  ผมเห็นว่า ความผิดตกอยู่ที่บุคคลเหล่านี้

1) พระจังไรหรือนักวิชาการจังไรทั้งหลายที่สอนว่า “นรก-สวรรค์ไม่มี” ตายแล้วเกิดชาติเดียว 

พวกจังไรพวกนี้ มักจะพยายามเอา “คุณธรรม-จริยธรรม” ของชาวตะวันตกมาแทน “ศีลธรรม” ของศาสนาพุทธ

แต่มันเป็นไปไม่ได้  มันไม่กลมกลืนกัน

2) พ่อแม่ผู้ปกครอง  เพราะ ไม่สอนลูกให้รู้จักบาปกรรมตั้งแต่เด็กๆ  ไม่สอนลูกให้พึ่งตนเอง 

เด็กคนไหนก็ตามที่มีศักยภาพที่จะฆ่าพ่อแม่ได้นั้น ถ้าได้เรียนวิชาธรรมกายตั้งแต่เด็ก จะไม่มีเหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น

ในการฆ่าพ่อแม่นั้น ในทางวิชาธรรมกาย มันจะต้องมีมารเข้ามาแทรกในจิตใจด้วย   คนไหนก็ตามที่ได้เรียนวิชาธรรมกายแล้ว  จะไม่สามารถทำกรรมชั่วอย่างหนักหนาสาหัสเช่นนั้นได้

กรรมชั่วเล็กๆ น้อยๆ ยังทำได้อยู่

3) ตัวของสัตว์นรกเอง 

สัตว์นรกพวกนี้ จิตใจของมันต้องมีความพร้อมที่จะทำความชั่วในระดับนี้ได้  มันเป็นความจังไรของคนพวกนี้เอง

และในความคิดเห็นส่วนตัว  สัตว์นรกพวกนี้ ขี้ขลาดตาขาวจึงไม่กล้าไปก่อเหตุข้างนอก  คนจำพวกนี้ผมเห็นมาเยอะ  ออกไปนอกบ้าน กลัวเขาไปหมด ใครตบ ใครทำร้ายก็ไม่กล้าสู้เขา

แต่พอเข้าบ้าน อาละวาดด่าพ่อ ด่าแม่

สมมุติว่าเป็นผมนะ  ผมว่า ไปปล้นธนาคารดีกว่า เพราะ  เคราะห์หามยามร้านสุดๆ ถ้าบังเอิญมีคนตายเกิดขึ้น  มันก็เป็นกรรมหนัก แต่ไม่หนักหนาสาหัสอย่างฆ่าพ่อ ฆ่าแม่

อย่างไรก็ดี ขอเตือนกันไว้ก่อนว่า ธนาคารปล้นง่ายแต่หนียาก

ผมมีเพื่อนเป็นผู้จัดการธนาคารคนหนึ่ง เพื่อนตายกันแน่แหละ เรียนหนังสือกันมาตั้งแต่ ป. 1 จนถึงมัธยม

มันเคยพูดว่า “มึงอยากได้เงินไหมล่ะ  มึงมาปล้นกูนี่” 

มันอธิบายว่า เงินธนาคารมีประกัน แล้วนโยบายของธนาคารห้ามขัดขืน ให้รักษาชีวิตเอาไว้ก่อน

มันบอกว่า “มึงแค่พูดดังๆ ว่า ว่ามึงปล้นกู มึงเอาเงินไปเลย

แต่มันก็พูดมาอีกว่า “มึงหนีให้รอดก็แล้วกัน”  เพราะ ธนาคารจะตามตลอด ไม่ให้เกิดเป็นกรณีตัวอย่างได้

ซึ่งก็จริงอย่างนั้น เพราะ มีน้องชายของเพื่อนคนหนึ่ง เคยเป็นลูกศิษย์ผมด้วย มันปล้นธนาคารและหนีอยู่ได้ 10 ปี  สุดท้ายก็ถูกสามัญฆาตกรรม 



2 ความคิดเห็น: