เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

อีโบลาไวรัสมรณะล้างโลก




ภาพของใบปิดหนังด้านบนนั้น เป็นตัวอย่างของหนังที่เกี่ยวกับไวรัสมรณะล้างโลก  หนังทำนองนี้มีเยอะ  ผมก็ชอบดูมาก  ดูเกือบทุกเรื่อง 

แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่า “จะมีเหตุการณ์จริงๆ เกิดขึ้นอย่างนั้น

พอมีข่าว “ไวรัสอีโบลา” ระบาด  คนตายเป็นร้อยแล้ว หมอ พยาบาลยังตาย และมีการปิดกั้นเขตที่เป็นโรคขึ้นมาจริงๆ 

ผมก็เปลี่ยนความคิด และคิดว่า พวกสร้างหนังนี่มันก็เก่งเหมือนกัน  โดยเฉพาะหนังสือเรื่อง Outbreak นั้น  ค่อนข้างสมจริงมากที่สุด

เพราะ ไวรัสในหนังที่ชื่อ โมทาบา คนแต่งเขาดัดแปลงมาจากไวรัสอีโบลาที่กำลังดังอยู่ในขณะนี้นี่แหละ

ในหนังบางเรื่องนั้น  มีคนพยายามหนีออกเขตกักกัน  ยังถูกพวกเจ้าหน้าที่ยิงตาย  ผมไม่รู้ในชีวิตจริงจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าก็ไม่รู้

ตอนนี้ นักวิชาการชาวไทยออกมาเตือนเรื่องอีโบลากันมาก  ส่วนใหญ่แล้วก็ออกมาเตือนว่า “อย่าตระหนก”   ทำนองนี้ อีโบลามันไม่ได้ติดต่อกันง่าย

มีข่าวในผู้จัดการออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นของอีโบลา ดังนี้

โรคอีโบลาไม่ใช่โรคใหม่ มีมาเกือบ 40 ปี ระบาดมาแล้วกว่า 20 ครั้ง พบผู้ป่วยประมาณ 500 - 600 ราย แต่ยังสามารถควบคุมโรคได้ดี

โดยข้อมูลเมื่อวันที่ 27 ก.ค. มีรายงานผู้ป่วยแล้วมากกว่า 1,323 ราย เสียชีวิต 729 คน ไม่กระจายไปยังประเทศ หรือภูมิภาคอื่น
กล่าวอีกว่า โรคอีโบลามีระยะฟักตัว 2 - 21 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงเฉียบพลัน อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย การอักเสบของตับ ไต รวมถึงมีเลือดออกคล้ายโรคไข้เลือดออก

เนื่องจากเชื้ออีโบลาทำให้การแข็งตัวของเลือดเสีย จึงทำให้มีอาการอาเจียนเป็นเลือด เลือดกำเดาไหล เลือดออกในอวัยวะภายใน และจะตายภายในสัปดาห์ที่ 2 ซึ่งอัตราป่วยตายอยู่ที่ 50 - 90%

ยังไม่มียารักษาเฉพาะและวัคซีนป้องกัน ต้องรักษาตามอาการ ซึ่งในคนที่มีภูมิต้านทานดี ร่างกายจะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้เอง และหายเป็นปกติได้ ซึ่งที่ผ่านมาอัตราการรอดชีวิตคือ 40%

อย่างไรก็ดี  พวกบริษัทตาแหกก็ชักจะเริ่มตาเหลือกกันแล้ว  ขนาดข่าวแมงมุมแม่หม้ายสีน้ำตาลกัดคนตาย

แมงมุมไม่ว่าจะชนิดไหน  พวกบริษัทตาแหกก็ตามฆ่ากันไม่รู้ว่าเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว

ในความคิดเห็นของผมนั้น  ความไม่ประมาทเป็นหนทางที่ดีที่สุดในสถานการณ์อย่างนี้ เพราะ คนที่ติดเชื้ออีโบลาแล้ว  มีโอกาสตาย 100เนื่องจากยังไม่มียารักษา แต่จะตายช้าหรือเร็วเท่านั้น

ประเทศไทยก็มีโอกาสจะติดโรคนี้ได้  เท่าที่ผ่านมาโรคเอดส์พี่ไทยก็เป็นกับเขา  ไข้หวัดนกเราก็เป็นกับเขา  กรณีของไข้หวัดนกนี่ เราก็ดังติดระดับโลกเหมือนกัน

อย่างไรก็ดี  ผมขอยืนยันว่า คนไทยจะไม่ตายกันเป็นเบืออย่างแน่นอน  คนชาติอื่นไม่รู้นะ แต่คนไทยผมว่าเป็นอย่างนั้น

ก่อนอื่น เราดูตัวอย่างของโรคระบาดที่ฆ่าคนเป็นเบือกันก่อน

ระดับโลกเลยก็คือ แบล็กเดท (Black Death) หรือ กาฬมรณะ  วิกิพิเดีย สารานุกรมเสรี เขียนไว้ดังนี้

แบล็กเดท ( Black Death) หรือ กาฬมรณะ เป็นโรคระบาดทั่วครั้งที่ก่อความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์

ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประเมินไว้ราว 75 ถึง 200 ล้านคน และทวีความรุนแรงที่สุดในทวีปยุโรประหว่างปี 1348–50

คาดว่าแบล็กเดทเริ่มต้นในจีนหรือเอเชียกลาง จากนั้นแพร่มาตามเส้นทางสายไหมและถึงไครเมียในปี 1346 และหมัดหนูตะวันออก (Xenopsylla cheopis) ซึ่งอาศัยอยู่ในหนูดำอันอยู่บนเรือพาณิชย์ทั่วไป น่าจะเป็นตัวนำโรคจากไครเมีย กาฬโรคได้แพร่ไปทั่วเมดิเตอร์เรเนียนและทวีปยุโรป

ประเมินกันว่ามีผู้เสียชีวิตเป็น 30–60% ของประชากรทั้งทวีปยุโรป กาฬโรคลดประชากรโลกจากที่ประเมินไว้ 450 ล้านคน ลงเหลือ 350–375 ล้านคนในคริสต์ศตวรรษที่ 14

พูดง่ายๆ ว่า แบล็กเดท (Black Death) ฆ่าคนยุโรปไปถึงหนึ่งในสาม  สิ่งที่แปลกก็คือ คนที่ไม่ตาย ก็ไม่ตายเฉยๆ เพราะ ในยุคนั้นไม่มียาใดๆ ที่จะรักษาโรคดังกล่าวได้เลย

ดูเหมือนกับว่า  โรคมันเลือกคนที่จะตาย  คนที่โรคมันไม่เลือก เขาก็ไม่เป็นอะไร เอาคนตายไปฝัง ไปเผาเสียด้วยซ้ำ

ในเมืองไทยเองก็มีเรื่องทำนองนี้ เช่น ฝีดาษระบาดในสมัยอยุธยา และอหิวาตกโรคหรือห่าแพร่ระบาดในช่วงต้นรัตนโกสินทร์

จนคนตายเป็นเบือเสียจนไม่มีเวลาเผาหรือฝังศพได้ ต้องทิ้งให้แร้งกากิน เป็นที่มาของตำนาน “แร้งวัดสระเกศ” คู่กับ “เปรตวัดสุทัศน์”

กลับมาถึงเรื่องคนไทยจะตายไม่มาก

ผมขอยืนยันด้วยวิชาธรรมกายว่า  ประเทศไทยมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือ จักรพรรดิที่เก่งที่สุดในอนัตตจักรวาลนี้แล้ว

ประเทศไทยอาจจะแพ้ประเทศอื่นๆ ในหลายเรื่อง แต่เรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ เราเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งแต่เพียงประเทศเดียว และไม่มีประเทศไหนจะตามทันได้เลย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือจักรพรรดินี่แหละ จะคุ้มครองคนดีให้อยู่รอดปลอดภัย  ไม่มีอันตรายใดๆ แผ้วพาน

ถ้าคุณอีโบลาจะมาเยือนเมืองไทยจริงๆ  ผมก็ขอให้ไปเยือนพวกนักการเมืองเลวๆ ข้าราชการเลวๆ พวกทำมาหากินโดยให้ศาสนาหลอกลวงประชาชน เช่น นางอุบลหน้าม้าบ้าพีระมิด หรือนางกาญจนา วงศ์สกล เป็นต้น

ขอให้พวกเลวๆ จังไรทั้งหลายพร้อมด้วยสาวกตายไปสัก 10 ล้านคน ประเทศไทยคงจะเจริญขึ้นมาก






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น